ลักษณะทางพฤษศาสตร์
หน้าวัวมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ Anthurium andraeanum เป็นพืชในสกุล Anthurium วงศ์ Araceae มีถิ่นกำเนิดมาจากเขตร้อนของทวีปอเมริกาเหนือและใต้ ความสวยงามของทั้งใบ และดอกทำให้มีพืชชนิดต่างๆ ในสกุลหน้าวัวถูกนำมาใช้ประโยชน์ในทางพืชสวน ทั้งในรูปไม้ตัดดอก ไม้ตัดใบ และไม้กระถาง หน้าวัวมีดอกสมบูรณ์เพศ คือ มีเกสรตัวผู้กับเกสรตัวเมียอยู่ในดอกเดียวกัน
หน้าวัวมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ Anthurium andraeanum เป็นพืชในสกุล Anthurium วงศ์ Araceae มีถิ่นกำเนิดมาจากเขตร้อนของทวีปอเมริกาเหนือและใต้ ความสวยงามของทั้งใบ และดอกทำให้มีพืชชนิดต่างๆ ในสกุลหน้าวัวถูกนำมาใช้ประโยชน์ในทางพืชสวน ทั้งในรูปไม้ตัดดอก ไม้ตัดใบ และไม้กระถาง หน้าวัวมีดอกสมบูรณ์เพศ คือ มีเกสรตัวผู้กับเกสรตัวเมียอยู่ในดอกเดียวกัน
ดอก เป็นรูปสี่เหลี่ยวข้าวหลามตัดเรียงตัวกันแน่นบนช่อดอกที่เรียกว่า ปลี (Spadix) ซึ่งมีหลากสีเช่น สีส้ม สีแดง สีเขียว สีชมพู สีม่วง สีขาว หรือมีหลายสีรวมกันในจานรองดอกเดียวกัน ปกติจานรองดอกมีอายุการใช้งาน 15 วันขึ่นไป ดอกหน้าวัวจะบานหลังจากจานรองดอกคลี่ประมาณ 3-4 วัน ดอกจะบานจากโคนปลีสู่ปลายปี และเกสรตัวเมียพร้อมผสมก่อน เกสรตัวผู้ของดอกเดียวกัน โดยเกสรตัวเมียจะโผ่ลขึ้นจากดอก เห็นเป็นตุ่มขรุขระ ยอดเกสรตัวเมียเหล่านี้พร้อมได้รับการถ่ายละองเกสรในช่วง 8.00-10.30 น. ของวันที่มีอากาศเย็นซึ่งจะสังเกตเห็นว่ายอดเกสรตัวเมียมีลักษณะเป็นเมือกเหนียวเป็นมัน หากสภาพแวล้อมเหมาะสม ส่วนเกสรตัวผู้มีลักษณะเป็นผงสีขาวคล้ายผงแป้ง ซึ่งจะสังเกตเห็นเวลา 8.00-10.30 น. ของวันที่มีอากาศเย็นเช่นกัน การถ่ายละอองเกสรสามารถทำได้โดยใช้พู่กันแตะเกสรตัวผู้แล้วนำไปสัมผัสกับเกสรตัวเมียและควรทำวันเว้นวันตั้งแต่โคนปลีจนสุดปลายปลี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น